ภาคการจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสีย พบว่าส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน โดยแหล่งที่ปล่อยก๊าซมีเทนที่มากที่สุดคือ หลุมฝังกลบขยะ รองลงมาได้แก่ ถังบำบัดนำเสีย และน้ำเสียที่ยังไม่ได้รับการบำบัด ดังนั้น การใช้แนวทางจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมเป็นวิธีการช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักการระบายน้ำของกรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสีย โดยความพยายามอย่างต่อเนื่องของกรุงเทพมหานครในการลดปริมาณขยะ และการบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพส่งผลโดยตรงต่อการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
สำหรับการคาดการณ์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในภาคการจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แผนแม่บทกรุงเทพฯ พบว่า หากเป็นไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่มีการดำเนินการใดๆ (Business as Usual: BAU) เพื่อที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเพิ่มขึ้นจาก 4.551 MtCo2e ในปี พ.ศ. 2556 ไปเป็น 4.934 MtCo2e ในปี พ.ศ. 2563 อย่างไรก็ตาม หากมีการดำเนินการตามแผนแม่บทฯ คาดว่าจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ 4.73 MtCo2e ในปีพ.ศ. 2563 หรือคิดเป็นการลดลงของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 4.06 และหากเปรียบเทียบผลจากการทบทวนการดำเนินงานแบบองค์รวม (Comprehensive Review) ในปัจจุบัน (ระหว่างปี พ.ศ. 2556-2559) พบว่า มีปริมาณการปล่อยก๊าซอยู่ที่ 4.573 MtCo2e ในปี พ.ศ. 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากสถานการณ์ที่ไม่มีการดำเนินการใดๆ (Business as Usual: BAU) ที่ 4.727 MtCo2e
เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ
อยู่ระหว่างการจัดทำ
เป้าหมาย
ในปีพ.ศ. 2563 หรือคิดเป็นการลดลงของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 4.06 เทียบกับกรณีปกติในปี พ.ศ. 2563 (4.73 MtCO2e)
ผลการดำเนินงาน
เทียบเท่าในปี พ.ศ. 2559 เทียบกับค่าการปล่อยก๊าชเรือนกระจกในกรณีไม่ดำเนินมาตรการใด ๆ ในปี พ.ศ. 2559 (4.727 MtCO2e)
มาตรการสนับสนุนการดำเนินงานในภาคการจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ