การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามที่สำคัญระดับโลก และส่งผลต่อความมั่นคงของมนุษย์ อีกทั้งมีการคาดการณ์ว่าการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเพิ่มสูงขึ้นจนอาจถึงระดับวิกฤตในศตวรรษที่ 21 หากเรายังคงรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างไม่ยั่งยืนเช่นในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ กรุงเทพมานครจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินกิจกรรมเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามแผนแม่บทกรุงเทพมหานครฯ ว่าด้วยการลดปัญหาภาวะโลกร้อนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550-2555 เพื่อผลักดันมาตรการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่อยู่ในแผนให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยร่วมมือกับองค์กรทั้งภายในและต่างประเทศ มาตรการต่างๆที่อยู่ในแผนแม่บทฯ จะประกอบด้วยแผนการดำเนินงานครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ 1) การขนส่งที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2) การใช้พลังงานอย่าง มีประสิทธิภาพและการใช้พลังงานทางเลือก 3) การจัดการขยะและการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ 4) การวางผังเมือง สีเขียว และ 5) แนวทางการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมาตรการต่างๆที่ถูกคัดเลือกมาบรรจุในแผน จะพิจารณาจากลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วน ความเป็นไปได้และบูรณาการไปกับภารกิจงานของกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ประเมินการคาดการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกกรณีไม่มีการดำเนินการใดๆ (Business as Usual; BAU) ของภาคส่วนต่างๆ เปรียบเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนากระบวนการติดตามและประเมินผล (Monitoring and Evaluation; M&E) และการตรวจวัด การรายงาน การทวนสอบ (Measurement, Reporting and Verification; MRV) เพื่อรองรับการดำเนินงานตามแผนแม่บทฯ ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์

      สำหรับการคาดการณ์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใต้แผนแม่บทกรุงเทพฯ พบว่า หากสภาพเศรษฐกิจและสังคมของกรุงเทพมหานครเป็นไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่มีการดำเนินการใดๆ (Business as Usual: BAU) เพื่อที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเพิ่มขึ้นจาก 43.87 MtCo₂e เทียบเท่าในปี พ.ศ. 2556 ไปเป็น 53.74 เทียบเท่าในปี พ.ศ. 2563 อย่างไรก็ตาม หากมีการดำเนินการตามแผนแม่บทฯ คาดว่าจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ 46.44 MtCo₂e เทียบเท่าในปี พ.ศ. 2563 หรือคิดเป็นการลดลงของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 13.57 และหากเปรียบเทียบผลจากการทบทวนการดำเนินงานแบบองค์รวม (Comprehensive Review) ในปัจจุบัน (ระหว่างปี พ.ศ. 2556-2559) พบว่า มีปริมาณการปล่อยก๊าซอยู่ที่ 42.75 MtCo₂e เทียบเท่าในปี พ.ศ. 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากสถานการณ์ที่ไม่มีการดำเนินการใดๆ (Business as Usual: BAU) ที่ 46.83 MtCo₂e